- Home>
- Review Anime >
- Hyouka ปริศนาความทรงจำ
Posted by : Unknown
1 เม.ย. 2558
“ ไม่รู้เหรอ? ไม่รู้จริงๆ งั้นเหรอ? จะบอกว่าไม่มีใครเข้าใจเลยสินะ? ข้อความที่ไร้ค่านั้น! ไม่เข้าใจงั้นเหรอทั้งที่เรื่องมันชัดเจนออกขนาดนั้น
เฮียวกะ คือการเล่นคำยังไงละ! ”
Hyouka
ปริศนาความทรงจำ
ประเภท : Investigate
ผลิตโดย : Kyoto Animation (ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชน)
ถือครองลิขสิทธิ์ในไทยโดย : REC (ROSE ENTERTAINMENT CORPORATION)
จำนวน : 22 ตอน + OVA 1 ตอน
OP-ED
OP1 Yasashisa no Riyuu - Choucho
OP2 Mikansei Stride - Saori Kodama
ED1 Madoromi No Yakusoku – Eru & Mayaka
ED2 Kimi ni matsuwaru Misteri ni matsuwaru Misteri – Eru & Mayaka
Sound Track By : Kohei Tanaka
เนื้อเรื่องย่อ
โอเรกิ โฮทาโร่ เด็กหนุ่ม ม.ปลายปี1 ของโรงเรียนคามิยามะ ได้ถูกพี่สาวของเขาขอร้องให้ไปเข้าชมรมวรรณกรรมคลาสสิกที่เธอเคยอยู่ เพื่อไม่ให้ชมรมถูกยุบเพราะไม่มีสมาชิกใหม่ ทำให้เขาต้องจำใจเข้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ และที่ห้องชมรมเขาได้พบกับเด็กสาวที่ยืนอยู่กลางแสงแดดยามเย็น โดยโฮทาโร่ไม่อาจรู้ได้เลยว่าเด็กสาวคนนี้อาจจะทำให้กฎการประหยัดพลังงานของเขาพังทลายลงได้ในชั่วพริบตา
ตัวละครหลัก
โอเรกิ โฮทาโร่ – เด็กหนุ่มผู้ใช้พลังงานให้น้อยที่สุดหากไม่มีความจำเป็นอะไร เค้าจะไม่ยอมทำอะไรเพราะเขาเชื่อว่าพลังงานชีวิตมีจำกัด เค้าเข้าชมรมวรรณกรรมคลาสสิกที่โรงเรียนจากคำขอร้องของพี่สาว และที่ห้องชมรมเค้าก็พบเจอกับ จิทันดะ เอรุ เด็กสาวขี้สงสัยประจำชมรมวรรรกรรมคลาสสิก และเริ่มมีความรู้สึกกับเอรุมากกว่าคำว่าเพื่อนในช่วงครึ่งหลัง
คำพูดติดปาก = “ อะไรไม่จำเป็นต้องทำก็จะไม่ทำ อะไรที่จำเป็นต้องทำก็จะรีบทำให้มันเสร็จๆ ไป ”
จิทันดะ เอรุ – เด็กสาวขี้สงสัย และเธอยังได้เป็นประธานชมรมวรรณกรรมคลาสสิกเพราะเธอเป็นคนแรกที่เข้าร่วมชมรมนี้ โดยเธอมีนิสัยที่ไม่ยอมให้เรื่องที่เธอสงสัยผ่านเธอไปได้ และชอบขอร้องโฮทาโร่ให้คลี่คลายความสงสัยให้เธอเสมอ โดยเธอเองก็มีความรู้สึกที่ดีต่อโฮทาโร่เช่นกันแต่เพราะเธอเป็นลูกสาวของตระกูลใหญ่ทำให้เธอต้องปฏิบัติตามกฎของบ้านเสมอ (โดยตอนที่ออกอาการเด่นชัดที่สุดก็คือตอนที่ 21 ที่เธอโดนมายากะถามว่าจะเอาช็อกโกแลตให้ใคร และฉากที่เธออธิบายว่าทำไมเธอจึงให้ช็อกโกแลตแก่โฮทาโร่ไม่ได้)
คำพูดติดปาก = “ ฉันสงสัยจริงๆ ค่ะ! ”
ฟุคุเบะ ซาโตชิ – เด็กหนุ่มผู้รอบรู้ เพื่อนสนิทของโฮทาโร่ตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เข้าชมรมวรรณกรรมคลาสสิกตามโฮทาโร่เพราะเห็นว่ามันน่าสนุก โดยเค้านั้นอยู่ชมรมกรรมการนักเรียน และชมรมเย็บปักถักร้อยอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เค้ามีความสามารถที่จดจำสิ่งที่เค้าสนใจได้อย่างแม่นยำแต่ไม่ค่อยตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง มีความรู้สึกชอบมายากะแต่เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้เขาไม่สามารถตอบรับความรู้สึกนั้นได้
คำพูดติดปาก = “ ฐานข้อมูลน่ะมันสรุปผลอะไรเองไม่ได้หรอกนะ ”
อิบาระ มายากะ – เด็กสาวผู้แสนเข้มงวด เรียนที่เดียวกับโฮทาโร่มาตั้งแต่ประถม แต่ไม่ค่อยชอบโฮทาโร่มากนักเพราะความขี้เกียจของเค้านั่นเอง แอบชอบซาโตชิมาตั้งแต่ตอน ม.ต้น แต่ก็ถูกซาโตชิปฏิเสธมาตลอด แต่ปัจจุบันเธอเองก็ยังชอบซาโตชิอยู่ถึงแม้ว่าจะถูกปฏิเสธก็ตาม และยังรอคำตอบจากซาโตชิอยู่เสมอ เข้าชมรมวรรณกรรมคลาสสิกเพราะเห็นว่าน่าสนใจ และตามซาโตชิมาด้วยนั่นเอง
คำพูดติดปาก = สำหรับมายากะนั้น
เธอเองไม่มีคำพูดติดปากหรือคติประจำใจเพราะเธอเป็นพวกทำมากกว่าคิดนั่นเอง
ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน
ถือว่าหาชมได้ยากมากสำหรับอนิเมะแนวสืบสวนสอบสวน โดยอนิเมะเรื่องนี้ได้ผู้ผลิตที่ได้จับเอาอะไรมาดัดแปลงเป็นอนิเมะยังไงก็ไม่มีทางเจ๊งอย่าง Kyouto Animation หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า
“ เกียวอนิ ” นั่นเอง
คุณภาพของผลงานแทบจะเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมสมกับเป็นเกียวอนิ ทั้งบทที่สามารถนำเนื้อหาในฉบับนิยายเล่ม
4 มาสอดแทรกใส่เนื้อหาได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ภาพที่เรียกว่าเก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน
ส่วนในเรื่องเพลงประกอบได้ผู้ทำเพลงประกอบมากประสบการณ์อย่าง อาจารย์ทานากะ
ผู้ที่เคยทำเพลงประกอบให้อนิเมะ 1 ใน 3 ตำนาน อย่าง One Piece ตัวเพลงส่วนใหญ่จะเป็นแนวคลาสสิกในช่วงครึ่งแรก และตามเนื้อเรื่องในช่วงครึ่งหลัง
โดยนำเพลงคลาสสิกมาดัดแปลงได้อย่างลงตัวอีกด้วย เช่น Air On G-String ของ ออกุสต์ วิลเฮล์ม
ส่วนในตัวเนื้อเรื่องได้นำเนื้อหาในนิยายมาจัดเรียงกันตามต้นฉบับนิยายไม่มีการดัดแปลงใดๆ แต่จะเอาเนื้อหาบางส่วนในนิยายเล่ม 4 มาสอดแทรกในเนื้อหาของเล่มอื่นๆ และนำมาทอดยาวในช่วงครึ่งหลัง ยังไม่พอยังมีตอนออริจินอลอย่าง “
แดดบนเขายังแรงอยู่ไหม ” ที่ตัวอาจารย์โยเนซาวะ
โฮโนบุ ผู้แต่งนิยายมาแต่งให้อีกด้วย และฉากจบที่สำหรับผมแล้ว
ยังไม่มีอนิเมะเรื่องไหน ที่จะจบแล้วสามารถทำให้ผมฟินที่สุด
ได้เท่าเรื่องนี้อีกแล้ว
คะแนนเนื้อเรื่อง 10/10
ผมขอให้เต็มเลยละกันเพราะตัวนิยายออริจินอลนั้นก็เขียนเนื้อหามาได้อย่างสวยงาม และลงตัวแล้ว ไม่พอเกียวอนิยังสามารถนำเนื้อหาในฉบับนิยายทั้ง 4 เล่ม มาใส่เสน่ห์ของเกียวอนิได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติจริงๆ
(ปล.ส่วนตัวนั้นผมชอบนิยายแนวสืบสวนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เลยค่อนข้างจะชอบเรื่องนี้เป็นพิเศษ)
คะแนนเพลง OP-ED 10/10
ส่วนทางเพลง OP-ED ผมก็ขออนุญาตให้เต็มอีกเช่นกันเพราะ OP1 นั้นได้นักร้องสาวเสียงไพเราะอย่าง ChouCho มาร้องให้ซึ่งเพลงมีความหมายที่ดี และค่อนข้างตรงไปทางโอเรกิ ส่วน OP2 มีความมายที่ตรงไปทางชีวิตของวัยรุ่น และกลุ่มพ้องเพื่อนนั่นเอง และสุดท้าย ED1-2 ก็ไพเราะเช่นกัน แต่ตัวผมเองยังไม่ได้แกะความหมายของ 2 เพลง นี้อย่างจริงจังเลยยังไม่สามารถที่จะบอกความหมายที่เพลงนี้ต้องการจะสื่อออกไม่ได้นะครับ
คะแนนเพลง Sound Track 10/10
คะแนนเต็มอีกแล้วเพราะเพลงประกอบนั้นแทบจะเรียกว่าตรงพอดีกับฉากนั้นๆ และยังมีเพลงคลาสสิกค่อยประกอบอีกด้วย ถึงแม้จะได้ใช้แค่เพียงช่วงแรกก็เถอะ (555+) แต่เพลงที่เรียกว่าเป็น Highlight ประจำเรื่องนี้ก็คงจะเป็น เพลงในฉากคลี่คลายปริศนาที่ฟังแล้วมันแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ท่อนแรกเหมือนปริศนาค่อยๆ เฉลยที่ละนิดๆ ท่อนสอง เหมือนกำลังชี้ตัวคนร้าย และกลอุบาย ส่วนท่อนสุดท้ายที่ฟังสบายๆ ซึ่งมีความหมายว่า “ ปริศนาทั้งหมดคลี่คลายแล้ว ” นั่นเอง
คะแนนรวม 10/10
ผมขอบอกได้คำเดียวว่ายอดเยี่ยมมากสำหรับเรื่องนี้จนทำให้ผมคิดว่าทำไมมีแค่ 22 ตอน หรือทำไมไม่ทำซีซั่น 2 ต่อนะ กันเลยทีเดียว
สรุป
ในตอนแรกอนิเมะเรื่องนี้ผมตัดใจ
ที่จะไม่ดูไปแล้วครั้งหนึ่ง เพราะตอนนั้น REC หรือ Rose ได้ LC เรื่องนี้ไปทำให้ผมไม่โหลดมาดูหรือพูดง่ายๆ ก็คือกะจะให้มันออกให้ครบ 22
ตอนแล้วค่อยโหลดมาดูนั่นเอง
และผมได้ตัดสินใจมาซื้อแผ่นแท้แบบรายเดือนทุกเดือนที่แผ่นออกกันเลยทีเดียว
ซึ่งมันทำให้ผมไม่ผิดหวังเลย
โดยเรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนที่ไม่ได้ไปที่ไหนมีคนตายที่นั้นอย่างไอ้เด็กนรกใส่แว่นบางคน
ปริศนาของเรื่องนี้มันน่าสนใจกว่าไปตามหาใครคือคนร้ายมากกว่าเยอะ
แต่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ฉบับนิยายมีถึงแค่เล่ม 5 เพียงเท่านั้น (ทั้งที่ญี่ปุ่น
และไทย โดยที่ไทยเล่ม 5 ได้วางจำหน่ายไปแล้วในงานหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43
โดยสำนักพิมพ์ Enter Book เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์)
และยังคงค้างอยู่ที่เล่ม 5 มานาน 5-6 ปีแล้ว (แต่ถ้านับจริงๆ อาจเลยมาเกินเป็น 10
ปี แล้วก็ได้เพราะตัวนิยายได้ถูกนำมา Remake หลายรอบ
และอาจารย์พึ่งมาเขียนเล่มที่ 5 ตอนที่ตัวอนิเมะกำลังฉายอยู่นั่นเอง)
หากใครที่ลุ้นตัวอนิเมะซีซั่นที่ 2 อยู่ก็ต้องภาวนาให้อาจารย์เขียนเล่มต่อไวๆ
ละครับ 555+)
เอาเป็นว่าคุ้มค่าที่ได้ดูจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ใครที่ยังไม่เคยดู หรือคนที่ดูแต่พวกอนิเมะพวกเนื้อ นม ไข่ ก็ลองมาดูอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้ดูเถอะครับแล้วจะพบว่าอนิเมะที่ไม่มีเซอร์วิสนั้นก็สนุกไม่แพ้เรื่องใดๆ เลย :)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น