- Home>
- Review Anime >
- Guilty Crown ปฏิวัติหัตถ์ราชัน
Posted by : Unknown
24 ก.พ. 2558
" The boy who acquires a special ability fights with the enemy with essense of the person made a material as the weapon "
Guilty Crown ปฏิวัติหัตถ์ราชัน
แนว - Action
ผลิตโดย - Production I.G (เห็นมีมิตรสหายท่านหนึ่งมาบอกว่าจอมมารเก็นมาแจมด้วยไม่รู้จริงหรือเปล่า)
จำนวนตอน - 22 ตอน + OVA 1 ตอน
OP – ED
- OP1 My Dearest – Supercell, OP2 The Everlasting Guilty Crown – EGOIST
- ED Departure – Egoist, Battle Theme Bios – Sawano Hiroyuki (อันนี้แถมให้เพราะชอบเป็นการส่วนตัว)
เนื้อเรื่องย่อ
เมื่อวันที่25 ธันวาคม 2029 ที่ประเทศญี่ปุ่นได้เกิดเการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อ Apocalypse Virus ผู้ติดเชื่อร่างกายจะค่อยๆคลผลึกและแตกสลายตายไป จากเหตุการ์ณนี้องค์กรระหว่างประเทศชื่อว่า GHQ จึงเข้ามายับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้ แต่ภายหลังที่ GHQ เข้าควบคุมประเทศญี่ปุ่นกลับใช้กำลังกดขี่ประชาชนอย่างทารุน จึงเกิดกลุ่มต่อต้านที่ชื่อว่า “ผู้ฝังศพ” ประกาศตัวเป็นศัตรูกับ GHO และหวังกอบกู้ประเทศคืน
ตัวละคร
โอมะ ชู พระเอกของเราที่แสนจะขาดความมั่นใจในช่วงแรก งานนี้ไม่ได้มาตามหลักสูตรพระเอกทั่วไปที่ค่อยๆ เก่งไปเรื่อย เพราะพี่แกนั้นเริ่มมาก็มีพลังที่เรียกว่า หัตถ์ราชัน หรือ Void Genome ที่ใช้สำหรับดึงเอาจิตใจของคนมาเปลี่ยนเป็นอาวุธที่แตกต่างกันไป โดยชูนั้นมีอดีตที่เป็นกุญแจสำคัญที่จะไขปริศนาทุกอย่างของเรื่องนี้ ต่อด้วยนางเอกหวยล็อคของเรื่องนี้ยุซึริฮะ อิโนริ นางเอกจอแบน ( แต่ผมชอบนะ ) ผู้ที่แสนจะคูล + น่ารัก เป็นหนึ่งในกลุ่ม ผู้ฝังศพ และเป็นนักร้องนำวง EGOIST ( เสียงนี้เพราะมากมายแต่สู้ ยานากิ นากิผมไม่ได้หรอก 55+ ) โดยเธอคนนี้มี Void เป็นดาบที่แสนจะโหดสลัดรัสเซียเวียนากันเลยทีเดียว โดยเธอคนนี้มีความลับที่เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ปริศนาสมบูรณ์มากขึ้น ต่อมาซึซึงะมิ ไก หัวหน้าของกลุ่ม ผู้ฝังศพ เป็นคนที่มีสกิลในการต่อสู้สูงมาก และเป็นคนชักชวนให้ชูมาเข้าร่วมกลุ่ม โดยมีอดีตที่เป็นปริศนาและเชื่อมโยงกันกับของชูแน่นอน
ความเห็นส่วนตัวของผู้ REVIEW
"หากอนิเมะเรื่องนี้มันมีแค่ครึ่งแรกก็ดีสิ" ถือเป็นว่าเป็นคำพูดที่หลุดปากผมหลังจากดูจบ 22 ตอนจนทำให้ไม่กล้าซื้อแผ่นของไทยมาเก็บสะสมทั้งๆ ที่อยากจะเก็บจนมือไม้สั่น (แล้วดันมาออกพร้อมกับ SAO ทำให้ลังเลอยู่พักใหญ่จนสุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อสักเรื่อง ให้ตายเถอะ.) โดยในครึ่งแรกนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ทั้งการเดินเนื้อเรื่อง ทั้งความสัมพันธ์ของตัวละคร ทั้งอธิบายรายละเอียดต่างๆ ได้แบบสมบูรณ์แบบ Perfect แบบไร้ที่ติเลยที่เดียว แต่แล้วเรื่องดีๆ มักอยุ่กับเราไม่นาน หลังเริ่มครึ่งหลังไปได้ 2-3 ตอนทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาให้ครึ่งแรกก็พังทลายด้วยฉากเพียงฉากเดียว ซึ่งถ้าใครเป็นสายเพื่อนสมัยเด็กแล้วคงจะช็อคเลิกดูได้ก็มิปานเลย (ผมก็เกือบแล้วแต่ฝืนใจดูต่อ) แต่ฉากจบก็ถือว่าทำได้ดีอยู่ในระดับหนึ่ง รวมถึงเรื่องราวระหว่างคู่พระนางประจำเรื่องที่เด็นชัดที่สุดในช่วงครึ่งหลังนี้นี่เอง รวมถึงการเฉลยปริศนาด้วยซึ่งถ้าใครไม่เข้าใจก็ให้ไปเปิดเว็บหาอ่านสรุปเนื้อเรื่องโลด มาต่อกันด้วย OVA โดยตัวเนื้อเรื่องของ OVA นั้นเป็นส่วนนึงของเกม Guilty Crown Lost X’Mas (ซึ่งบัดนี้ผมยังหาโหลดมาเล่นไม่ได้เลย) ซึ่งไม่มีอะไรมากนอกจากนางเอกของภาคนี้ที่น่ารักมาก (จำชื่อไม่ได้) และ ราชาผู้ล้มเหลว ตัวเอกของเรื่องที่จับต้องอะไรก็ต้องเป็นผลึกไปหมด (น่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก) โดยตัว OVA มันมีส่วนหนึ่งของเกมดังนั้นถ้าอยากรู้เรื่องราวต่อก็ต้องเล่มเกมลูกเดียว
คะแนนเพลง OP&ED 9/10
OP1 และ ED ค่อนข้างมีความหมายของเพลงที่ดี มาตกม้าตายใน OP2 ที่ความหมายค่อนข้างชวนงง ซึ่งถ้าฟังเอาเพราะอย่างเดียวก็ไม่มีปัญหา !
คะแนนเพลงประกอบ (Sound Track ) 10/10
เรื่องนี้ได้ท่านผู้ที่สำเร็จวิชาภาษามนุษย์ทั่วไปจนเลยขั้นโจไปแล้ว เทพ Sawano hiroyuki นั้นเองซึ่งตัว sound track นั้นทำออกมาได้ค่อนข้างเพราะและมีความหมายที่ดีเข้ากับเนื้อเรื่องอย่างมาก ไม่ต้องคิดมากหลับหูหลับตาฟังยังไงก็เพราะ
คะแนนเนื้อเรื่อง(ครึ่งแรก) 8/10
ไม่ขออธิบายให้มากเพราะได้เกริ่นไปสะหมดในข้างต้นแล้ว
คะแนนเนื้อเรื่อง(ครึ่งหลัง) 6/10
ที่ไม่ได้ 3 หรือ 2 ก็คงเพราะมีการเฉลยปริศนา ความสัมพันธ์พระนาง และฉากจบที่ค่อนข้างกินใจ โดยเฉพาะเพลงประกอบสุดท้าย Release my soul นั้นทำผมนั่งน้ำตาคล้อเบ้า (จริงๆ นะเพื่อนๆพี่ๆ นึกว่าผมนั่งดู Clannad กันเลยทีเดียว)
สรุป
อนิเมะเรื่องนี้มีครบทุกรสชาติไม่ต้องสงสัย ถึงแม้มันจะดรอปลงจนไม่น่าดูในช่วงหลัง แต่ก็ยังพอประคับประครองไปยังตอนสุดท้ายได้ เพลง OP-ED และ เพลงประกอบเพราะเข้ากับเนื้องเรื่อง ส่วนอนิเมะเรื่องนี้ยังให้ข้อคิดหลายอย่างๆ เช่น " ไม่มีสงครามไหนที่จะไม่สูญเสียอะไรเลย " และ " โลกนี้มันโหดร้ายเสมอ มีแต่เรื่องที่เราต้องยอบรับให้ได้ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือน่าเศร้าเพียงใดก็ตาม " และ คำพุดจากตัวละครท่านหนึ่งในเรื่องที่ผมชอบที่สุด " ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะทุกข์เท่าช่วงเวลาที่เอาแต่นึกถึงช่วงเวลาที่มีแต่ความสุข " เอาเป็นว่าหากมีเวลาว่างและไม่มีอนิเมะจะดูแล้วละก็เจียดเวลามาดูเรื่องนี้สักนิดแล้วจะพบว่า " เมื่อมีพลังอันยิ่งใหญ่แล้ว ทั้งภาระ ทั้งเรื่องที่ต้องรับผิดชอบนั้นจะยิ่งใหญ่ตามไปด้วย "
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น